“`html

เทรนด์สลับแบตฯ E-Bike: อนาคตใหม่ของการชาร์จในไทย?

ภูมิทัศน์ของยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยมีนวัตกรรมที่น่าจับตามองเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด หนึ่งในนั้นคือเทคโนโลยีการสลับแบตเตอรี่สำหรับจักรยานไฟฟ้าและสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งนำเสนอทางเลือกใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านความเร็วและความสะดวกสบายได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

ภาพรวมของเทคโนโลยีสลับแบตเตอรี่

• แก้ปัญหาการรอชาร์จ: การสลับแบตเตอรี่ (Battery Swapping) ลดระยะเวลาการรอคอยจากหลายชั่วโมงเหลือเพียง 2-3 นาที ทำให้การใช้งานยานยนต์ไฟฟ้ามีความต่อเนื่องและไม่สะดุด
• ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง: เหมาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจเดลิเวอรีและผู้ใช้งานที่ต้องการความคล่องตัวสูงในสภาพแวดล้อมที่เร่งรีบของเมืองใหญ่
• โมเดลธุรกิจใหม่ (BaaS): แนวคิด Battery as a Service (BaaS) กำลังเป็นที่สนใจ โดยผู้ให้บริการเป็นเจ้าของและบำรุงรักษาแบตเตอรี่ ช่วยลดต้นทุนเริ่มต้นสำหรับผู้ซื้อยานยนต์
• กุญแจสู่อนาคต: การพัฒนาแบตเตอรี่มาตรฐานกลาง (Universal Battery) ที่สามารถใช้งานร่วมกันได้หลายรุ่น คือปัจจัยสำคัญที่จะผลักดันให้ระบบนิเวศนี้เติบโตอย่างยั่งยืน
• ศักยภาพการเติบโตสูง: ด้วยการสนับสนุนจากผู้เล่นรายใหญ่และการขยายตัวของตลาด EV ในไทย เทรนด์นี้จึงมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นส่วนสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานในอนาคตอันใกล้

เทรนด์สลับแบตฯ E-Bike: อนาคตใหม่ของการชาร์จในไทย? กำลังเป็นหัวข้อที่ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางในวงการยานยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีพลังงานสะอาด เนื่องจากเป็นแนวทางที่สามารถแก้ไขจุดอ่อนสำคัญของการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) นั่นคือระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ที่ยาวนาน การสลับแบตเตอรี่เป็นระบบที่ผู้ใช้งานสามารถนำแบตเตอรี่ที่พลังงานหมดไปแลกเปลี่ยนกับแบตเตอรี่ที่ชาร์จเต็มแล้วจากสถานีบริการอัตโนมัติได้อย่างรวดเร็ว แนวคิดนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความสะดวกสบาย แต่ยังมีศักยภาพในการเร่งการยอมรับยานยนต์ไฟฟ้าให้แพร่หลายมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มจักรยานไฟฟ้า (E-Bike) และสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นพาหนะที่ได้รับความนิยมสูงในเขตเมืองของประเทศไทย

ความสำคัญของเทรนด์นี้ทวีคูณขึ้นเมื่อพิจารณาถึงบริบทของสังคมไทยที่กำลังเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ธุรกิจเดลิเวอรี อีคอมเมิร์ซ และบริการขนส่งขนาดเล็ก (Last-mile logistics) เติบโตอย่างก้าวกระโดด ทำให้มีความต้องการใช้งานยานพาหนะที่คล่องตัว ประหยัด และพร้อมใช้งานตลอดเวลา การรอชาร์จแบตเตอรี่นานหลายชั่วโมงจึงเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจ ดังนั้น เทคโนโลยีสลับแบตเตอรี่จึงเข้ามาตอบโจทย์ความต้องการนี้ได้อย่างตรงจุด โดยมีผู้เล่นในตลาดพลังงานของไทยเริ่มลงทุนและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต ซึ่งส่งสัญญาณว่าเทรนด์นี้กำลังจะกลายเป็นจริงในไม่ช้า

เจาะลึกแนวคิดการสลับแบตเตอรี่ (Battery Swapping) คืออะไร?

การสลับแบตเตอรี่เป็นมากกว่าแค่การเปลี่ยนแบตเตอรี่ แต่เป็นระบบนิเวศที่ผสมผสานฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และโมเดลธุรกิจเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าที่ราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุด หัวใจของระบบคือการเปลี่ยนกระบวนทัศน์จากการ “เติมพลังงาน” ให้ยานพาหนะ เป็นการ “เปลี่ยนแหล่งพลังงาน” โดยตรง

“แทนที่จะรอเป็นชั่วโมงเพื่อชาร์จไฟ ผู้ใช้งานสามารถสลับแบตเตอรี่ลูกใหม่ที่ชาร์จเต็มแล้วได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที ซึ่งเทียบเท่ากับเวลาที่ใช้ในการเติมน้ำมัน”

นิยามและหลักการทำงานของระบบ Swap & Go

หลักการทำงานของระบบสลับแบตเตอรี่ หรือที่เรียกว่า “Swap & Go” นั้นเรียบง่ายและเน้นความสะดวกของผู้ใช้เป็นหลัก กระบวนการโดยทั่วไปประกอบด้วยขั้นตอนดังนี้:

1. ค้นหาสถานี: ผู้ใช้งานเปิดแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนเพื่อค้นหาสถานีสลับแบตเตอรี่ที่อยู่ใกล้ที่สุด พร้อมตรวจสอบสถานะของแบตเตอรี่ที่พร้อมใช้งานแบบเรียลไทม์
2. ยืนยันตัวตน: เมื่อเดินทางถึงสถานี ซึ่งมักเป็นตู้ชาร์จอัตโนมัติ ผู้ใช้จะทำการสแกน QR Code ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อยืนยันตัวตนและเริ่มต้นกระบวนการ
3. สลับแบตเตอรี่: ช่องเก็บแบตเตอรี่ที่หมดจะปลดล็อกออก ผู้ใช้สามารถนำแบตเตอรี่เก่าใส่เข้าไป จากนั้นช่องใหม่ที่มีแบตเตอรี่ชาร์จเต็มจะเปิดออกให้ผู้ใช้นำไปติดตั้งกับยานพาหนะของตนเอง
4. ชำระเงินและออกเดินทาง: ระบบจะคำนวณค่าบริการและหักเงินจากบัญชีที่ผูกไว้อัตโนมัติ กระบวนการทั้งหมดใช้เวลาเพียง 2-3 นาที ทำให้ผู้ใช้สามารถเดินทางต่อได้ทันที

เบื้องหลังความเรียบง่ายนี้คือเทคโนโลยีการจัดการที่ซับซ้อน สถานีสลับแบตเตอรี่จะทำการชาร์จแบตเตอรี่ที่ได้รับคืนมาอย่างเหมาะสม พร้อมทั้งตรวจสอบสภาพและประสิทธิภาพของแบตเตอรี่แต่ละก้อนผ่านระบบบริหารจัดการทางไกล (Remote Monitoring & Control) เพื่อให้แน่ใจว่าแบตเตอรี่ทุกลูกที่ให้บริการมีคุณภาพและความปลอดภัยสูงสุด

โมเดลธุรกิจ Battery as a Service (BaaS)

โมเดลธุรกิจที่เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเทคโนโลยีสลับแบตเตอรี่คือ Battery as a Service (BaaS) หรือ “แบตเตอรี่ในรูปแบบบริการ” แนวคิดนี้คือการแยกราคาของแบตเตอรี่ออกจากตัวยานพาหนะ ทำให้ราคาเริ่มต้นของ E-Bike หรือสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าถูกลงอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากแบตเตอรี่มักเป็นส่วนประกอบที่มีราคาสูงที่สุด

ภายใต้โมเดล BaaS ผู้ใช้งานไม่ได้เป็นเจ้าของแบตเตอรี่ แต่จะชำระค่าบริการเป็นรายเดือนหรือตามการใช้งาน (Pay-per-use) เพื่อเข้าถึงเครือข่ายสถานีสลับแบตเตอรี่ โมเดลนี้มีข้อดีหลายประการ:

• ลดต้นทุนเริ่มต้น: ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงยานยนต์ไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น
• หมดกังวลเรื่องแบตเตอรี่เสื่อม: ผู้ให้บริการเป็นผู้รับผิดชอบในการบำรุงรักษาและเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพ
• เข้าถึงเทคโนโลยีล่าสุดเสมอ: ผู้ใช้จะได้รับแบตเตอรี่ที่มีเทคโนโลยีใหม่และประสิทธิภาพดีที่สุดอยู่เสมอ โดยไม่ต้องลงทุนซื้อใหม่เอง
• สร้างรายได้ต่อเนื่องให้ผู้ให้บริการ: ทำให้เกิดธุรกิจที่ยั่งยืนและกระตุ้นให้เกิดการขยายเครือข่ายสถานีบริการให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น

การวิเคราะห์ตลาดและศักยภาพในบริบทของไทย

ประเทศไทยมีปัจจัยหลายอย่างที่เอื้อต่อการเติบโตของเทคโนโลยีสลับแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก ทำให้เทรนด์นี้มีศักยภาพที่จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตคนเมืองในอนาคตอันใกล้

ปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตในประเทศไทย

การขยายตัวของเทรนด์สลับแบตเตอรี่ในไทยได้รับแรงหนุนจากปัจจัยสำคัญหลายด้าน:

• การเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล: ธุรกิจจัดส่งอาหาร (Food Delivery) และพัสดุ (Parcel Delivery) ขยายตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้มีความต้องการใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่สามารถวิ่งได้ต่อเนื่องยาวนาน การสลับแบตเตอรี่จึงตอบโจทย์การใช้งานเชิงพาณิชย์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
• พฤติกรรมผู้บริโภค: คนรุ่นใหม่ในเขตเมืองต้องการความรวดเร็ว ความสะดวกสบาย และโซลูชันที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ดิจิทัล การควบคุมทุกอย่างผ่านแอปพลิเคชันและการบริการที่รวดเร็วทันใจจึงเป็นที่น่าสนใจ
• นโยบายภาครัฐ: การสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเพื่อลดปัญหามลพิษและมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เป็นแรงผลักดันให้เกิดการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสถานีชาร์จและสถานีสลับแบตเตอรี่
• โครงสร้างพื้นฐานด้านที่อยู่อาศัย: ผู้ที่อาศัยในคอนโดมิเนียมหรืออพาร์ตเมนต์มักประสบปัญหาไม่มีพื้นที่ส่วนตัวสำหรับติดตั้งที่ชาร์จ EV การมีเครือข่ายสถานีสลับแบตเตอรี่ที่เข้าถึงง่ายจึงเป็นทางออกที่เหมาะสม

กลุ่มเป้าหมายหลัก: ใครได้ประโยชน์สูงสุด?

แม้ว่าเทคโนโลยีสลับแบตเตอรี่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้ E-Bike ทั่วไป แต่มีสองกลุ่มหลักที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดและเป็นตัวขับเคลื่อนตลาดในช่วงแรก

ธุรกิจเดลิเวอรีและโลจิสติกส์

กลุ่มผู้ขับขี่ในธุรกิจเดลิเวอรีคือกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนที่สุด เวลาทุกนาทีหมายถึงรายได้ การหยุดรถเพื่อรอชาร์จแบตเตอรี่นาน 3-4 ชั่วโมงคือการสูญเสียโอกาสในการรับงาน การสลับแบตเตอรี่ใน 3 นาทีช่วยให้พวกเขาสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง เพิ่มรอบการวิ่ง และสร้างรายได้มากขึ้น นอกจากนี้ การใช้ยานยนต์ไฟฟ้ายังช่วยลดต้นทุนค่าเชื้อเพลิงในระยะยาวได้อย่างมีนัยสำคัญ

ผู้ใช้งาน E-Bike และสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าในเมือง

สำหรับผู้ที่ใช้จักรยานไฟฟ้าหรือสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าในการเดินทางในชีวิตประจำวัน เช่น การเดินทางไปทำงานหรือทำธุระต่างๆ ความสะดวกสบายคือปัจจัยสำคัญ การไม่ต้องกังวลเรื่องการหาที่ชาร์จหรือระยะเวลาในการชาร์จ ทำให้การตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้ EV ง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสถานีสลับแบตเตอรี่กระจายตัวอยู่ตามจุดยุทธศาสตร์ต่างๆ เช่น สถานีรถไฟฟ้า อาคารสำนักงาน หรือห้างสรรพสินค้า

เปรียบเทียบการสลับแบตเตอรี่กับการชาร์จแบบดั้งเดิม

เพื่อให้เห็นภาพความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างสองแนวทาง การเปรียบเทียบในมิติต่างๆ จะช่วยให้เข้าใจถึงข้อดีและข้อจำกัดของแต่ละวิธีได้ดียิ่งขึ้น

นวัตกรรมและอนาคตของเทคโนโลยีแบตเตอรี่สำหรับ E-Bike

ความสำเร็จของระบบสลับแบตเตอรี่ขึ้นอยู่กับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีแบตเตอรี่เป็นอย่างมาก การพัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่เพียงแต่จะเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ยังช่วยลดต้นทุนและสร้างมาตรฐานที่จำเป็นต่อการขยายตัวในวงกว้าง

ก้าวต่อไปสู่ Universal Battery

หนึ่งในความท้าทายที่สำคัญที่สุดในปัจจุบันคือการขาดมาตรฐานกลางของแบตเตอรี่ ผู้ผลิต E-Bike แต่ละรายมักออกแบบแบตเตอรี่ที่มีรูปทรง ขนาด และขั้วต่อที่แตกต่างกัน ทำให้ไม่สามารถใช้งานข้ามค่ายได้ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการสร้างเครือข่ายสถานีสลับแบตเตอรี่ที่ครอบคลุม

อนาคตจึงมุ่งไปสู่การพัฒนา “Universal Battery” หรือแบตเตอรี่มาตรฐานกลางที่สามารถใช้ได้กับยานยนต์ไฟฟ้าหลากหลายรุ่นและยี่ห้อ หากแนวคิดนี้ประสบความสำเร็จ จะเกิดประโยชน์มหาศาล:

• เพิ่มความสะดวกให้ผู้ใช้: ผู้ใช้สามารถสลับแบตเตอรี่ได้จากทุกสถานีในเครือข่าย โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นของผู้ให้บริการรายใดหรือใช้กับรถยี่ห้อใด
• ลดความซับซ้อนในการจัดการ: ผู้ให้บริการสถานีสามารถจัดการสต็อกแบตเตอรี่ได้ง่ายขึ้น
• กระตุ้นการแข่งขันและการเติบโต: ผู้ผลิตยานยนต์รายใหม่สามารถเข้าสู่ตลาดได้ง่ายขึ้นโดยใช้แบตเตอรี่มาตรฐานที่มีอยู่แล้ว

การผลักดันให้เกิด Universal Battery จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งผู้ผลิตยานยนต์ ผู้ให้บริการสถานี และหน่วยงานภาครัฐในการกำหนดมาตรฐานอุตสาหกรรม

เทคโนโลยีแบตเตอรี่รุ่นใหม่: ประสิทธิภาพที่เหนือกว่า

นอกจากการสร้างมาตรฐานแล้ว การวิจัยและพัฒนายังมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มประสิทธิภาพของตัวแบตเตอรี่เองด้วย เทคโนโลยีใหม่ๆ ช่วยให้แบตเตอรี่มีคุณสมบัติที่ดีขึ้นในหลายด้าน ข้อมูลล่าสุดชี้ว่าแบตเตอรี่รุ่นใหม่สำหรับ E-Bike สามารถทำให้รถวิ่งได้ไกลถึง 200 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ซึ่งเป็นการทำลายข้อจำกัดด้านระยะทางและลดความกังวลของผู้ใช้งาน (Range Anxiety) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นวัตกรรมอื่นๆ ที่น่าจับตามองได้แก่:

• ความหนาแน่นของพลังงานสูงขึ้น: ทำให้แบตเตอรี่มีขนาดเล็กลงและน้ำหนักเบาลง แต่เก็บพลังงานได้เท่าเดิมหรือมากขึ้น
• อายุการใช้งานยาวนานขึ้น: แบตเตอรี่สามารถรองรับรอบการชาร์จ-คายประจุได้มากขึ้นก่อนจะเริ่มเสื่อมสภาพ
• ระบบความปลอดภัยที่ดีขึ้น: มีการพัฒนาระบบจัดการแบตเตอรี่ (BMS) ที่ฉลาดขึ้น เพื่อป้องกันความร้อนสูงเกินไป การลัดวงจร หรือการชาร์จไฟเกิน

ความท้าทายและข้อควรพิจารณาของระบบสลับแบตเตอรี่

แม้ว่าเทคโนโลยีสลับแบตเตอรี่จะมีศักยภาพสูง แต่การนำมาปรับใช้ในวงกว้างยังคงมีความท้าทายหลายประการที่ต้องได้รับการแก้ไข เพื่อให้ระบบนิเวศนี้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน

มาตรฐานและความเข้ากันได้ของแบตเตอรี่

ดังที่กล่าวไปข้างต้น ปัญหาการขาดมาตรฐานกลางเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุด ผู้ให้บริการแต่ละรายอาจพัฒนาแพลตฟอร์มและแบตเตอรี่ของตนเอง ซึ่งนำไปสู่การแยกส่วนของตลาด (Market Fragmentation) หากผู้ใช้ถูกจำกัดให้ต้องใช้บริการจากเครือข่ายเดียว อาจทำให้ความน่าสนใจของเทคโนโลยีนี้ลดลงในระยะยาว

การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน

การสร้างเครือข่ายสถานีสลับแบตเตอรี่ให้มีความหนาแน่นและครอบคลุมเพียงพอต่อความต้องการของผู้ใช้จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนเริ่มต้นที่สูงมาก ทั้งค่าสถานี ค่าแบตเตอรี่จำนวนมากสำหรับหมุนเวียนในระบบ และค่าติดตั้ง การหาทำเลที่ตั้งที่เหมาะสมในเขตเมืองที่มีค่าเช่าสูงก็เป็นอีกหนึ่งความท้าทาย การคืนทุนอาจต้องใช้เวลาและต้องมีจำนวนผู้ใช้บริการที่มากพอ

รูปแบบค่าบริการและการยอมรับของผู้บริโภค

โมเดลการสมัครสมาชิก (Subscription) หรือการจ่ายตามการใช้งานอาจยังเป็นแนวคิดที่ใหม่สำหรับผู้บริโภคชาวไทยบางกลุ่ม การตั้งราคาที่เหมาะสมและสามารถแข่งขันได้กับค่าใช้จ่ายในการชาร์จไฟที่บ้านหรือค่าน้ำมันเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ผู้ให้บริการจำเป็นต้องสื่อสารให้ผู้บริโภคเห็นถึงความคุ้มค่าในระยะยาว ทั้งในแง่ของความสะดวกสบายและการลดภาระในการดูแลรักษาแบตเตอรี่

สรุป: เทรนด์สลับแบตฯ E-Bike ก้าวต่อไปของ Mobility ในไทย

เทรนด์สลับแบตเตอรี่สำหรับ E-Bike และสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าไม่ใช่วิสัยทัศน์ที่ไกลตัวอีกต่อไป แต่เป็นนวัตกรรมที่กำลังก่อตัวและพร้อมจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเดินทางในเมืองของประเทศไทยอย่างมีนัยสำคัญ ด้วยข้อได้เปรียบที่ชัดเจนในด้านความเร็ว ความสะดวก และการตอบโจทย์การใช้งานเชิงพาณิชย์ ทำให้เทคโนโลยีนี้มีศักยภาพสูงที่จะเร่งให้เกิดการยอมรับยานยนต์ไฟฟ้าในวงกว้าง

การเข้ามาลงทุนของผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดพลังงานของไทย เป็นสัญญาณบวกที่ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของตลาดนี้ แม้จะยังมีความท้าทายด้านมาตรฐานและการลงทุน แต่ด้วยแรงหนุนจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปและการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล อนาคตที่ผู้ใช้งาน E-Bike สามารถแวะสลับแบตเตอรี่ได้สะดวกและรวดเร็วเหมือนการเติมน้ำมันนั้นอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม และนี่อาจเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่จะทำให้การเดินทางด้วยพลังงานสะอาดกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของสังคมไทย

สำหรับผู้ที่สนใจในเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าและกำลังมองหาจักรยานไฟฟ้าหรือสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ GIANT Shopping Mall คือศูนย์รวมที่จำหน่ายจักรยานไฟฟ้าหลากหลายประเภท ทั้ง E-bike และสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองทุกความต้องการในการเดินทางของคุณ

สามารถดูข้อมูลผลิตภัณฑ์และรับคำปรึกษาได้ที่ ติดต่อ สอบถามเพิ่มเติม หรือติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นผ่านช่องทาง FACEBOOK PAGE และ LINE

“`