น้ำมันแพงดันยอด E-Bike? วิเคราะห์เทรนด์ EV สองล้อในไทย
ท่ามกลางสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นได้กลายเป็นภาระสำคัญของภาคครัวเรือน ส่งผลให้ผู้คนจำนวนมากเริ่มมองหาทางเลือกในการเดินทางที่ประหยัดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ยานยนต์ไฟฟ้าสองล้อจึงกลายเป็นคำตอบที่น่าสนใจและได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว
ประเด็นสำคัญของตลาด EV สองล้อ
- ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงเป็นปัจจัยกระตุ้นหลักที่ทำให้ผู้บริโภคหันมาสนใจยานยนต์ไฟฟ้าสองล้อ เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางประจำวัน
- ตลาดจักรยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสูงกว่า 60% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และมีสัดส่วนตลาดเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
- มาตรการสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้า EV 3.0 จากภาครัฐมีบทบาทสำคัญในการลดราคายานยนต์ไฟฟ้า ทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่ายขึ้นและกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ
- การแข่งขันในตลาดทวีความรุนแรงขึ้น มีแบรนด์ใหม่เข้าสู่ตลาดจำนวนมาก ขณะที่ผู้ผลิตรายเดิมต่างเร่งเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย
- กลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายหลักคือคนเมืองและกลุ่ม Gen Z ที่ให้ความสำคัญกับความประหยัด ความสะดวกสบาย และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
สถานการณ์น้ำมันแพงดันยอด E-Bike? วิเคราะห์เทรนด์ EV สองล้อในไทย กำลังเป็นคำถามที่ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง วิกฤตการณ์ด้านพลังงานได้สร้างผลกระทบเป็นวงกว้างต่อค่าใช้จ่ายในการเดินทางของผู้คน ทำให้ยานยนต์ทางเลือกที่ใช้พลังงานไฟฟ้า โดยเฉพาะกลุ่มสองล้ออย่างจักรยานไฟฟ้า (E-Bike) และสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า กลายเป็นโซลูชันที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านความประหยัดและความคล่องตัวในการใช้งานในเมือง บทวิเคราะห์นี้จะเจาะลึกถึงการเติบโตของตลาด EV สองล้อในประเทศไทย ว่าได้รับอิทธิพลจากราคาน้ำมันมากน้อยเพียงใด พร้อมทั้งสำรวจปัจจัยสนับสนุนอื่น ๆ และแนวโน้มในอนาคตของอุตสาหกรรมนี้
ความสำคัญของเทรนด์นี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน แต่ยังสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมและมองหาเทคโนโลยีที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต การเติบโตของตลาดนี้จึงเป็นที่น่าจับตามองสำหรับทั้งผู้บริโภคที่ต้องการลดภาระค่าใช้จ่าย และผู้ประกอบการที่มองเห็นโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ในยุคที่พลังงานฟอสซิลมีราคาผันผวนสูง
ภาพรวมตลาด EV สองล้อในประเทศไทย
ตลาด EV สองล้อในประเทศไทยได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพการเติบโตที่โดดเด่นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จากที่เคยเป็นเพียงตลาดเฉพาะกลุ่ม ได้ขยายตัวสู่ตลาดมวลชนอย่างรวดเร็ว โดยได้รับแรงหนุนจากปัจจัยหลายด้านพร้อมกัน
นิยามและความเข้าใจเกี่ยวกับ E-Bike
ยานยนต์ไฟฟ้าสองล้อ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า E-Bike ในบริบทกว้าง สามารถแบ่งได้หลายประเภทตามลักษณะการใช้งานและโครงสร้าง ตั้งแต่จักรยานไฟฟ้าที่ยังมีบันไดสำหรับปั่นควบคู่ไปกับมอเตอร์ไฟฟ้า ไปจนถึงสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าและจักรยานยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบที่ไม่ต้องใช้แรงปั่น จุดร่วมของยานพาหนะเหล่านี้คือการใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เป็นแหล่งขับเคลื่อนหลัก ทำให้ไม่มีการปล่อยมลพิษขณะใช้งานและมีค่าใช้จ่ายด้านพลังงานต่ำกว่ายานยนต์ที่ใช้น้ำมันอย่างมาก
ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ทำให้ผู้บริโภคสามารถเลือกยานพาหนะที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของตนเองได้ เช่น จักรยานไฟฟ้าแบบพับได้สำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกในการพกพาและจัดเก็บ หรือสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ขับขี่ง่ายสำหรับเดินทางระยะใกล้ในเมือง
สถิติการเติบโตที่ก้าวกระโดด
ข้อมูลยอดจดทะเบียนจักรยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตที่ชัดเจน จากยอดจดทะเบียนเพียงหลักพันคันในช่วงปี 2020-2021 ตลาดได้ขยายตัวอย่างมหาศาลในปี 2023 โดยมียอดจดทะเบียนสูงถึง 21,927 คัน คิดเป็นสัดส่วน 1.07% ของตลาดจักรยานยนต์ที่ใช้น้ำมันทั้งหมด แม้สัดส่วนดังกล่าวยังดูน้อย แต่เมื่อพิจารณาจากอัตราการเติบโต ถือว่าเป็นสัญญาณบวกอย่างยิ่ง
แนวโน้มนี้ยังคงดำเนินต่อไปในปี 2024 โดยในช่วงไตรมาสแรก สัดส่วนตลาดได้ขยับขึ้นเป็น 1.46% และเพิ่มเป็น 1.54% ในช่วง 7 เดือนแรกของปี ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดยังคงมีแรงส่งและได้รับความสนใจจากผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง การเติบโตนี้สอดคล้องกับภาพรวมในงานแสดงยานยนต์ครั้งล่าสุด ซึ่งยอดจองในกลุ่ม EV สองล้อเติบโตขึ้นถึง 66.98% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
| ปี/ช่วงเวลา | ยอดจดทะเบียน (คัน) | สัดส่วนตลาด (%) | คำอธิบาย |
|---|---|---|---|
| 2020 | 1,591 | 0.09 | ตลาดในช่วงเริ่มต้น มีขนาดเล็กมาก |
| 2022 | 9,916 | 0.50 | เริ่มเห็นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ |
| 2023 | 21,927 | 1.07 | สัดส่วนตลาดทะลุ 1% ยอดจองขยายตัวสูง |
| ม.ค.-มี.ค. 2024 | 7,206 | 1.46 | แนวโน้มการเติบโตยังคงแข็งแกร่ง |
| ม.ค.-ก.ค. 2024 | 14,174 | 1.54 | การเติบโตแบบก้าวกระโดดต่อเนื่อง |
ปัจจัยขับเคลื่อนที่ทำให้ตลาด E-Bike เติบโต
การเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาด EV สองล้อไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เกิดจากปัจจัยสนับสนุนหลายประการที่ทำงานร่วมกันอย่างลงตัว
วิกฤตพลังงานและราคาน้ำมัน: ตัวเร่งสำคัญ
ปฏิเสธไม่ได้ว่าราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องคือปัจจัยที่ทรงพลังที่สุดในการผลักดันให้ผู้บริโภคพิจารณายานยนต์ไฟฟ้าอย่างจริงจัง เมื่อค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมันสำหรับรถจักรยานยนต์แบบเดิมเพิ่มสูงขึ้นจนส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพ การเปลี่ยนมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้าที่สามารถชาร์จไฟที่บ้านได้ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่ามาก จึงกลายเป็นทางเลือกที่น่าดึงดูดใจอย่างยิ่ง การลดค่าเดินทางกลายเป็นแรงจูงใจหลักที่ทำให้ผู้คนเปิดรับเทคโนโลยีใหม่นี้มากขึ้น
นโยบายสนับสนุนจากภาครัฐ (EV 3.0)
มาตรการสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EV 3.0 ของภาครัฐ เป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยกระตุ้นตลาด โดยการให้เงินอุดหนุนแก่ผู้ซื้อ ทำให้ราคาจำหน่ายของ E-Bike และสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าลดลงมาอยู่ในระดับที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้น การลดอุปสรรคด้านราคาเริ่มต้นนี้ช่วยเร่งการตัดสินใจของผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้ผู้ผลิตสามารถทำการตลาดได้ง่ายขึ้น โดยนำเสนอราคาที่จูงใจหลังหักส่วนลดจากภาครัฐ
การพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่และตัวรถ
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมีส่วนสำคัญในการทำให้ EV สองล้อเป็นตัวเลือกที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน แบตเตอรี่รุ่นใหม่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น สามารถวิ่งได้ระยะทางไกลขึ้นต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น นอกจากนี้ การออกแบบตัวรถยังมีความทันสมัยและตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น เช่น การมีฟังก์ชันเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน หรือการออกแบบที่เน้นความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่
พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่
กลุ่มผู้บริโภคในปัจจุบัน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ (Gen Z) และผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตเมือง มีแนวโน้มที่จะเปิดรับเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าในระยะยาว พวกเขามองว่า EV สองล้อไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตที่ทันสมัยและใส่ใจต่อปัญหาสิ่งแวดล้อม ความคล่องตัวในการเดินทางในเมืองที่การจราจรหนาแน่นเป็นอีกหนึ่งข้อได้เปรียบที่ทำให้ E-Bike และสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าได้รับความนิยม
การแข่งขันและกลยุทธ์ของผู้ผลิตในตลาด
เมื่อตลาดเติบโตอย่างรวดเร็ว การแข่งขันระหว่างผู้ผลิตจึงทวีความเข้มข้นขึ้นตามไปด้วย ทั้งผู้เล่นรายเดิมและรายใหม่ต่างพยายามช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดผ่านกลยุทธ์ที่หลากหลาย
ผู้เล่นในสมรภูมิ EV สองล้อ
ตลาด EV สองล้อของไทยไม่ได้มีเพียงผู้ผลิตรายใหญ่ที่คุ้นเคยกันดีอย่าง EM MOTOR หรือ AJ EV เท่านั้น แต่ยังมีแบรนด์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย เช่น STORM, RAPID, FELO และ ZEEHO การเข้ามาของผู้เล่นรายใหม่ช่วยเพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้บริโภค และกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันด้านนวัตกรรม ราคา และการบริการ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วเป็นประโยชน์ต่อผู้ซื้อโดยตรง
เป้าหมายและการขยายตลาดเชิงรุก
ผู้ผลิตหลายรายได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตไว้อย่างท้าทาย ตัวอย่างเช่น EM MOTOR และ AJ EV ที่มีแผนเปิดตัวรถรุ่นใหม่หลายรุ่นในช่วงปี 2024-2025 พร้อมตั้งเป้าขยายยอดขายมากกว่า 200% โดย AJ EV ถึงกับตั้งเป้าหมายที่จะก้าวขึ้นเป็นหนึ่งใน Top 5 ของตลาดจักรยานยนต์ไฟฟ้าในไทยภายในปี 2025 กลยุทธ์หลักของผู้ผลิตคือการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานจริง ควบคู่ไปกับการใช้สิทธิ์จากมาตรการสนับสนุนของภาครัฐเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันด้านราคา ซึ่งแตกต่างจากตลาดรถจักรยานยนต์น้ำมันที่เริ่มมีสัญญาณชะลอตัว
อนาคตและทิศทางของตลาด EV สองล้อไทย
ด้วยปัจจัยบวกหลายด้าน ตลาด EV สองล้อในประเทศไทยจึงมีแนวโน้มที่จะเติบโตต่อไปอย่างแข็งแกร่งในอนาคต
สถานะ “Take-off” ของตลาด
ภาพรวมตลาดในปัจจุบันสามารถกล่าวได้ว่ากำลังอยู่ในช่วง “Take-off” หรือช่วงที่กราฟการเติบโตพุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว ความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากวิกฤตพลังงาน ได้สร้างโอกาสมหาศาลให้กับนักลงทุนและผู้ผลิตในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อตอบสนองตลาด
“ภาพรวมตลาดนี้จึงถือว่ากำลังอยู่ในช่วง take-off หรือขาขึ้นที่แรง โดยเฉพาะในเมืองไทยที่นักลงทุนและผู้ผลิตต่างเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อแข่งขันและตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคพลังงานแพงนี้”
อย่างไรก็ตาม การเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาวจะขึ้นอยู่กับความพร้อมของระบบนิเวศโดยรอบด้วย เช่น สถานีชาร์จสาธารณะ, การจัดการแบตเตอรี่ที่ใช้แล้ว และบริการหลังการขายที่มีคุณภาพ ซึ่งจะเป็นความท้าทายต่อไปสำหรับอุตสาหกรรมนี้
มุมมองในระดับภูมิภาค
แนวโน้มการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าสองล้อไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในประเทศไทย แต่เป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยมีความโดดเด่นในด้านความสนใจในยานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) ที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าแรงจูงใจในการลดต้นทุนด้านพลังงานเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลอย่างสูงต่อผู้บริโภคชาวไทย
บทสรุป: EV สองล้อ ทางรอดในยุคพลังงานแพง
คำตอบสำหรับคำถามที่ว่า น้ำมันแพงดันยอด E-Bike? นั้นชัดเจนว่า “ใช่” วิกฤตการณ์ราคาน้ำมันได้กลายเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำคัญที่ทำให้ตลาด EV สองล้อในประเทศไทยเติบโตอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ประกอบกับแรงหนุนจากนโยบายภาครัฐ การพัฒนาทางเทคโนโลยี และการเปลี่ยนแปลงทัศนคติของผู้บริโภค ทำให้ยานยนต์ไฟฟ้าสองล้อไม่ได้เป็นเพียงกระแสชั่วคราว แต่กำลังจะกลายเป็นส่วนสำคัญของระบบการเดินทางในอนาคต โดยเฉพาะในเขตเมือง ด้วยข้อได้เปรียบด้านความประหยัด ความคล่องตัว และความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้ E-Bike และสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดและยั่งยืนสำหรับผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน
ค้นหาจักรยานไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณ
สำหรับผู้ที่กำลังพิจารณาเปลี่ยนมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้าสองล้อเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายและสัมผัสประสบการณ์การเดินทางที่แตกต่าง การเลือกพาหนะที่เหมาะสมกับความต้องการเป็นขั้นตอนที่สำคัญ GIANT Shopping Mall คือศูนย์รวมจักรยานไฟฟ้าทุกประเภท ทั้งสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า และ E-bike ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้งาน
สามารถเข้ามาเยี่ยมชมและรับคำปรึกษาได้ที่ ติดต่อ สอบถามเพิ่มเติม หรือผ่านช่องทางออนไลน์ที่ FACEBOOK PAGE และ LINE เพื่อค้นหายานพาหนะคู่ใจคันใหม่ของคุณ
