รัฐบาลอุ้ม EV รอบใหม่: E-Bike มีลุ้นเงินอุดหนุนไหม?
ท่ามกลางกระแสความตื่นตัวด้านยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในประเทศไทย คำถามสำคัญที่หลายคนสงสัยคือ มาตรการ รัฐบาลอุ้ม EV รอบใหม่: E-Bike มีลุ้นเงินอุดหนุนไหม? บทความนี้จะวิเคราะห์เจาะลึกถึงรายละเอียดของแพ็กเกจสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้ารอบใหม่ที่ผ่านมติคณะรัฐมนตรี เพื่อประเมินโอกาสและผลกระทบต่อตลาด EV ทุกขนาด โดยเฉพาะกลุ่มจักรยานไฟฟ้าและสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ภาพรวมมาตรการสนับสนุน EV รอบใหม่
รัฐบาลไทยได้อนุมัติแพ็กเกจสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้า (EV) รอบใหม่ ซึ่งเป็นการปรับปรุงต่อยอดจากมาตรการ EV3 และ EV3.5 เดิม โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV Hub) ในภูมิภาค และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Zero Emission Vehicle) ภายในปี พ.ศ. 2573 มาตรการใหม่นี้ถูกออกแบบมาเพื่อรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจโลก การแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง และภาวะอุปทานส่วนเกินในตลาดโลก โดยมุ่งเน้นการสร้างความยืดหยุ่นให้กับผู้ประกอบการและรักษาฐานการผลิตในประเทศ
- มุ่งเป้าที่รถยนต์เป็นหลัก: มาตรการอุดหนุนและสิทธิประโยชน์ส่วนใหญ่ในแพ็กเกจใหม่นี้ยังคงมุ่งเน้นไปที่กลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า (EV Car) เป็นสำคัญ
- ยังไม่มีเงินอุดหนุนโดยตรงสำหรับ E-Bike: จากข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี ณ วันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 ไม่มีการระบุถึงเงินอุดหนุนโดยตรงสำหรับจักรยานไฟฟ้า (E-Bike) หรือสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า
- ขยายเวลาและเพิ่มความยืดหยุ่น: มีการขยายกรอบเวลาการจดทะเบียนและการผลิตรถยนต์ EV เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ
- อาจมีประโยชน์ทางอ้อม: แม้จะไม่มีเงินอุดหนุนโดยตรง แต่การปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตสำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต อาจส่งผลดีทางอ้อมต่อตลาด E-Bike และ EV ขนาดเล็ก
เจาะลึกรายละเอียดมาตรการ EV3.5 ฉบับปรับปรุง
แพ็กเกจสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้ารอบใหม่นี้เป็นการปรับปรุงเงื่อนไขของมาตรการ EV3.5 ให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันมากขึ้น เพื่อสร้างแรงจูงใจให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาตั้งฐานการผลิตในไทย และสร้างสมดุลให้กับตลาดในประเทศ สาระสำคัญของมาตรการที่ปรับปรุงใหม่มีดังนี้
การขยายกรอบเวลาเพื่อความยืดหยุ่น
เพื่อลดผลกระทบและให้เวลาผู้ประกอบการในการปรับตัว รัฐบาลได้ขยายกรอบเวลาการจำหน่ายและจดทะเบียนรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในประเทศออกไป ดังนี้:
- มาตรการ EV3: ผู้ประกอบการสามารถจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าได้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 และต้องจดทะเบียนภายในวันที่ 31 มกราคม 2569
- มาตรการ EV3.5: ขยายเวลาการจำหน่ายออกไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2570 และต้องจดทะเบียนภายในวันที่ 31 มกราคม 2571
เงื่อนไขการผลิตและส่งออกที่เอื้อต่อผู้ประกอบการ
มาตรการใหม่ได้เพิ่มแรงจูงใจเพื่อส่งเสริมให้ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกยานยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญ โดยมีการปรับเงื่อนไขหลายประการ:
- ขยายการผลิตข้ามมาตรการ: ผู้ที่ได้รับสิทธิตามมาตรการ EV3 สามารถขยายการผลิตเพื่อชดเชยยอดนำเข้าภายใต้เงื่อนไขของมาตรการ EV3.5 ได้ ซึ่งช่วยรักษาฐานการผลิตและสร้างความต่อเนื่องทางธุรกิจ
- ส่งเสริมการส่งออก: มีการนับยอดการส่งออกเพื่อชดเชยยอดนำเข้าในอัตรา 1.5 เท่า เป็นการกระตุ้นให้เกิดการส่งออกและขยายตลาดไปยังต่างประเทศ
- ผ่อนผันการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ: อนุญาตให้ผู้ประกอบการนำเข้าเซลล์แบตเตอรี่มาใช้ในการผลิตได้ โดยสามารถนับเป็นมูลค่าการผลิตในประเทศได้ในสัดส่วนไม่เกิน 10% ของราคารถ จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2569 เพื่อเร่งให้เกิดการใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศในระยะต่อไป
เงินอุดหนุนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า: ใครได้เท่าไหร่?
แม้ว่ามาตรการ EV รอบใหม่จะปรับลดวงเงินอุดหนุนลงจากช่วงแรก แต่ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นการตัดสินใจของผู้บริโภค โดยวงเงินอุดหนุนสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าจะแตกต่างกันไปตามช่วงเวลาของมาตรการและขนาดของแบตเตอรี่ ซึ่งเน้นไปที่รถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่มีราคาไม่เกิน 2 ล้านบาทเป็นหลัก
| หัวข้อเปรียบเทียบ | มาตรการ EV3.0 (สิ้นสุด 31 ธ.ค. 2568) | มาตรการ EV3.5 (ปี 2567–2570) |
|---|---|---|
| วงเงินอุดหนุนสูงสุด | 150,000 บาท/คัน | 100,000 บาท/คัน (ในปี 2567) และลดหลั่นลง |
| เกณฑ์ขนาดแบตเตอรี่ | – แบตเตอรี่ต่ำกว่า 30 kWh: 70,000 บาท – แบตเตอรี่ตั้งแต่ 30 kWh ขึ้นไป: 150,000 บาท |
– แบตเตอรี่ตั้งแต่ 10 kWh แต่ไม่ถึง 50 kWh: 25,000 – 50,000 บาท – แบตเตอรี่ตั้งแต่ 50 kWh ขึ้นไป: 50,000 – 100,000 บาท |
| เงื่อนไขราคาจำหน่าย | รถยนต์ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท | รถยนต์ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท |
| ช่วงเวลาบังคับใช้ | ผู้ผลิตต้องรับรถภายใน 31 ธ.ค. 2568 และจดทะเบียนภายใน ม.ค. 2569 | เริ่มต้นปี 2567 และสิ้นสุดปี 2570 โดยวงเงินอุดหนุนจะลดลงในแต่ละปี |
สถานะของจักรยานไฟฟ้า (E-Bike) และสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าในมาตรการ
สำหรับผู้ที่รอคอยนโยบายสนับสนุนจากภาครัฐเพื่อซื้อจักรยานไฟฟ้า หรือ E-Bike Thailand ในราคาที่เข้าถึงง่ายขึ้น ข้อมูลจากแพ็กเกจล่าสุดอาจยังไม่เป็นไปตามที่คาดหวังนัก เนื่องจากมาตรการ EV3 และ EV3.5 ที่ประกาศออกมานั้น มุ่งเน้นการสนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าเป็นเป้าหมายหลัก
จากข้อมูลที่เปิดเผยทั้งหมดในมติคณะรัฐมนตรี ณ วันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 ยังไม่มีการกล่าวถึงมาตรการอุดหนุนทางการเงินโดยตรงสำหรับผู้ซื้อจักรยานไฟฟ้า (E-Bike) หรือสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ยังมีความหวังอยู่บ้างจากความเคลื่อนไหวในส่วนของโครงสร้างภาษี โดยมีข้อมูลว่าร่างกฎกระทรวงฉบับใหม่จะมีการปรับปรุงโครงสร้างภาษีสรรพสามิตสำหรับ “รถจักรยานยนต์” ซึ่งคาดว่าจะรวมถึงรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าด้วย เพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้ยานยนต์ไฟฟ้า การปรับโครงสร้างภาษีนี้อาจเป็นประโยชน์ทางอ้อมที่ทำให้ราคาจำหน่ายของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าบางประเภทปรับตัวลดลงในอนาคต แต่สำหรับ E-Bike ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มยานพาหนะขนาดเล็ก อาจต้องรอความชัดเจนจากนโยบายของบอร์ด EV หรือกระทรวงอุตสาหกรรมต่อไป ซึ่งยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการในขณะนี้
ผลกระทบต่อตลาดและทิศทางอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าไทย
มาตรการสนับสนุน EV รอบใหม่นี้ส่งผลกระทบในวงกว้างต่อทั้งผู้บริโภค ผู้ประกอบการ และนักลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทย สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของภาครัฐในการรักษาสมดุลระหว่างการกระตุ้นตลาดและการสร้างความยั่งยืนให้กับฐานการผลิตในระยะยาว
การตอบรับจากนักลงทุน
ทิศทางนโยบายที่ชัดเจนขึ้นส่งผลให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่น โดยเห็นได้จากการที่ค่ายรถยนต์ Mazda ประกาศแผนการลงทุนเพิ่มเติมมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท เพื่อตั้งฐานการผลิตรถยนต์ประเภท Mild Hybrid EV (MHEV) ในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อการส่งออกเป็นหลัก ซึ่งจะเริ่มเดินสายการผลิตในช่วงกลางปี 2570 สะท้อนให้เห็นว่ามาตรการของรัฐบาลสามารถดึงดูดการลงทุนและเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาในประเทศได้
ภาพรวมตลาดช่วงปลายปี 2568
ในช่วงโค้งสุดท้ายของมาตรการ EV3.0 คาดการณ์ว่าตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจะมีการแข่งขันด้านราคากันอย่างดุเดือด บรรดาค่ายรถยนต์ต่างเร่งระบายสต็อกรถยนต์ที่นำเข้ามาเพื่อรับสิทธิประโยชน์สูงสุด แม้ว่าจะมีการขยายเวลาจดทะเบียนออกไปถึงต้นปี 2569 แต่การนำเข้ารถล็อตใหม่เพื่อรับสิทธิ EV3.0 อาจไม่คุ้มค่ากับการลงทุนอีกต่อไป ส่งผลให้ผู้บริโภคที่ตัดสินใจซื้อในช่วงปลายปี 2568 อาจได้รับข้อเสนอที่น่าสนใจเป็นพิเศษ
บทสรุปและแนวโน้มในอนาคต
โดยสรุปแล้ว คำตอบของคำถามที่ว่า “รัฐบาลอุ้ม EV รอบใหม่: E-Bike มีลุ้นเงินอุดหนุนไหม?” คือ ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีมาตรการเงินอุดหนุนโดยตรงสำหรับกลุ่มจักรยานไฟฟ้าและสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าในแพ็กเกจ EV3.5 ฉบับปรับปรุงนี้ นโยบายของรัฐบาลยังคงให้ความสำคัญกับการสร้างฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเป็นหลัก เพื่อเป้าหมายการเป็นฮับ EV ของภูมิภาค อย่างไรก็ตาม การปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตสำหรับรถจักรยานยนต์ในอนาคตอาจเป็นปัจจัยบวกทางอ้อมที่ต้องจับตามองต่อไป ผู้ที่สนใจซื้อ E-Bike หรือสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าควรติดตามประกาศจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสและสิทธิประโยชน์ที่อาจมีขึ้นในอนาคต
มองหาจักรยานไฟฟ้าและสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าคุณภาพ
แม้ว่ามาตรการเงินอุดหนุนโดยตรงสำหรับ E-Bike จะยังไม่เกิดขึ้น แต่การเลือกใช้ยานพาหนะไฟฟ้าขนาดเล็กยังคงเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดในการเดินทางที่ประหยัดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สำหรับผู้ที่กำลังมองหาจักรยานไฟฟ้า สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า หรือ E-bike ที่มีคุณภาพและตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ GIANT Shopping Mall คือศูนย์รวมจักรยานไฟฟ้าทุกประเภท พร้อมทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำแนะนำ
สามารถเข้ามาเยี่ยมชมและทดลองขับได้ที่ร้าน หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่:
FACEBOOK PAGE: https://www.facebook.com/giantshoppingmall
LINE: @705dancc
ติดต่อ สอบถามเพิ่มเติม: คลิกที่นี่
เวลาทำการ: เปิดทุกวัน จันทร์ – เสาร์ (เวลา 9.00 – 18.00 น.)
โทรศัพท์: 061-962-2878
ที่ตั้ง: 44 หมู่ 14 ตำบลบ้านเป็ด อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น 40000
