แบตเตอรี่ Solid-State: พลิกโฉม E-Bike ในอนาคต?

แบตเตอรี่ถือเป็นหัวใจสำคัญของจักรยานไฟฟ้า หรือ E-Bike ซึ่งกำหนดทั้งระยะทาง สมรรถนะ และประสบการณ์การขับขี่โดยรวม ในปัจจุบัน เทคโนโลยีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนได้ครองตลาดมาอย่างยาวนาน แต่การมาถึงของนวัตกรรมใหม่กำลังจะเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์นี้ไปอย่างสิ้นเชิง

ภาพรวมของเทคโนโลยีแบตเตอรี่แห่งอนาคต

เทคโนโลยี แบตเตอรี่ Solid-State: พลิกโฉม E-Bike ในอนาคต? กำลังกลายเป็นหัวข้อที่ได้รับความสนใจอย่างมากในแวดวงยานยนต์ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ด้วยศักยภาพที่จะก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ ของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย นวัตกรรมนี้ υπόσχεταιทั้งในด้านความจุพลังงานที่สูงขึ้น ความปลอดภัยที่เหนือกว่า อายุการใช้งานที่ยาวนาน และความเร็วในการชาร์จที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ไม่เพียงส่งผลต่อรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงตลาดจักรยานไฟฟ้าที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วด้วย

• ความหนาแน่นพลังงานสูงกว่า: แบตเตอรี่ Solid-State มีศักยภาพในการเก็บพลังงานได้มากกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในขนาดและน้ำหนักที่เท่ากัน ซึ่งหมายถึง E-Bike ที่สามารถวิ่งได้ไกลขึ้น 2-3 เท่าต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
• ความปลอดภัยที่เหนือกว่า: การใช้อิเล็กโทรไลต์ชนิดแข็งช่วยลดความเสี่ยงจากไฟไหม้หรือการระเบิดที่อาจเกิดขึ้นได้ในแบตเตอรี่แบบเหลว ทำให้การใช้งานและการชาร์จมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
• อายุการใช้งานยาวนาน: แบตเตอรี่ชนิดนี้ทนทานต่อการเสื่อมสภาพได้ดีกว่า ทำให้มีรอบการชาร์จ (Cycle Life) ที่สูงกว่ามาก ซึ่งช่วยลดความจำเป็นในการเปลี่ยนแบตเตอรี่บ่อยครั้งและประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
• การชาร์จที่รวดเร็วยิ่งขึ้น: เทคโนโลยี Solid-State สามารถรองรับการชาร์จด้วยกำลังไฟที่สูงกว่า ทำให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่จากเกือบหมดจนถึง 80% ได้ในเวลาเพียง 10-15 นาที

เจาะลึกเทคโนโลยีแบตเตอรี่ Solid-State

เพื่อที่จะเข้าใจว่าเหตุใดแบตเตอรี่ Solid-State จึงถูกยกให้เป็นเทคโนโลยีเปลี่ยนโลก การทำความเข้าใจในหลักการทำงานพื้นฐานและความแตกต่างจากเทคโนโลยีปัจจุบันจึงเป็นสิ่งสำคัญ สิ่งนี้จะช่วยให้เห็นภาพชัดเจนถึงศักยภาพที่แท้จริงในการยกระดับสมรรถนะของจักรยานไฟฟ้าในอนาคต

คำจำกัดความและหลักการทำงานพื้นฐาน

แบตเตอรี่ Solid-State คือเซลล์แบตเตอรี่ที่ใช้ส่วนประกอบหลักเป็นของแข็งทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของ “อิเล็กโทรไลต์” ซึ่งเป็นสารตัวกลางที่ทำหน้าที่นำพาไอออนระหว่างขั้วบวก (แคโทด) และขั้วลบ (แอโนด) ในระหว่างกระบวนการชาร์จและคายประจุไฟฟ้า

หลักการทำงานยังคงคล้ายคลึงกับแบตเตอรี่ทั่วไป คือการเคลื่อนที่ของลิเธียมไอออน แต่แทนที่จะเคลื่อนที่ผ่านตัวกลางที่เป็นของเหลวหรือเจลโพลิเมอร์ ไอออนในแบตเตอรี่ Solid-State จะเคลื่อนที่ผ่านชั้นของวัสดุแข็ง เช่น เซรามิก, แก้ว หรือโพลิเมอร์แข็ง ซึ่งวัสดุแข็งนี้ถูกออกแบบมาให้มีโครงสร้างที่เอื้อต่อการนำไอออนได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเปลี่ยนแปลงจากของเหลวเป็นของแข็งนี้เองที่เป็นจุดเริ่มต้นของการปรับปรุงคุณสมบัติต่างๆ ให้ดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด

ความแตกต่างจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในปัจจุบัน

ความแตกต่างที่สำคัญที่สุดระหว่างแบตเตอรี่ Solid-State และแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบดั้งเดิมอยู่ที่สถานะของอิเล็กโทรไลต์ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ใช้ใน E-Bike ส่วนใหญ่ในปัจจุบันใช้อิเล็กโทรไลต์ในรูปแบบของเหลว ซึ่งไวไฟและอาจเกิดการรั่วไหลได้ นอกจากนี้ อิเล็กโทรไลต์เหลวยังมีส่วนทำให้เกิดการเติบโตของ “เดนไดรต์” (Dendrite) ซึ่งเป็นโครงสร้างคล้ายเข็มของลิเธียมที่สามารถงอกทะลุแผ่นกั้น (Separator) และทำให้เกิดการลัดวงจรภายในเซลล์ อันเป็นสาเหตุหลักของความร้อนสูงเกินไป (Thermal Runaway) และอาจนำไปสู่การเกิดเพลิงไหม้

ในทางกลับกัน อิเล็กโทรไลต์ชนิดแข็งในแบตเตอรี่ Solid-State มีความเสถียรทางเคมีและทางกายภาพสูงกว่ามาก ทำหน้าที่เป็นทั้งตัวนำไอออนและแผ่นกั้นในตัวเดียวกัน โครงสร้างที่แข็งแกร่งของมันช่วยยับยั้งการเติบโตของเดนไดรต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงช่วยลดความเสี่ยงของการลัดวงจรและความร้อนสูงเกินไปได้อย่างมาก นี่คือเหตุผลที่ทำให้แบตเตอรี่ชนิดนี้มีความปลอดภัยสูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด

ศักยภาพของแบตเตอรี่ Solid-State ที่จะปฏิวัติวงการ E-Bike

การนำเทคโนโลยีแบตเตอรี่ Solid-State มาประยุกต์ใช้กับจักรยานไฟฟ้ามีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงประสบการณ์การขับขี่ได้อย่างสิ้นเชิง โดยการแก้ไขปัญหาหลักๆ ที่ผู้ใช้งาน E-Bike ในปัจจุบันต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องระยะทาง ความปลอดภัย หรือเวลาในการชาร์จ

เพิ่มระยะทาง E-Bike: วิ่งได้ไกลขึ้นอย่างก้าวกระโดด

หนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดของแบตเตอรี่ Solid-State คือความหนาแน่นของพลังงาน (Energy Density) ที่สูงกว่ามาก โดยมีศักยภาพในการเก็บพลังงานต่อหน่วยน้ำหนักได้สูงถึง 250–800 Wh/kg หรือมากกว่านั้น ในขณะที่แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ดีที่สุดในปัจจุบันมีความหนาแน่นของพลังงานอยู่ที่ประมาณ 160-250 Wh/kg เท่านั้น

นั่นหมายความว่า E-Bike ที่ใช้แบตเตอรี่ Solid-State อาจสามารถวิ่งได้ไกลขึ้น 2 ถึง 3 เท่าต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง เมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่มีขนาดและน้ำหนักเท่ากัน

ในทางกลับกัน ผู้ผลิตสามารถเลือกที่จะออกแบบแบตเตอรี่ให้มีขนาดเล็กลงและน้ำหนักเบาลงอย่างมาก แต่ยังคงให้ระยะทางเท่าเดิม ซึ่งจะส่งผลให้ตัวจักรยานมีน้ำหนักเบาลง ควบคุมได้ง่ายขึ้น และมีการออกแบบที่สวยงามเพรียวบางกว่าเดิม การปลดล็อกข้อจำกัดด้านระยะทางนี้จะทำให้ E-Bike กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับการเดินทางไกล การท่องเที่ยว หรือแม้กระทั่งการใช้งานในชีวิตประจำวันโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จบ่อยๆ

มาตรฐานความปลอดภัยใหม่ที่เหนือกว่า

ความปลอดภัยเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่แบตเตอรี่ Solid-State สามารถยกระดับได้อย่างชัดเจน ดังที่กล่าวไปข้างต้น การใช้อิเล็กโทรไลต์ชนิดแข็งช่วยกำจัดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับอิเล็กโทรไลต์เหลวที่ไวไฟได้เกือบทั้งหมด ทำให้แบตเตอรี่มีความทนทานต่อความเสียหายทางกายภาพ เช่น การกระแทกหรือการเจาะทะลุได้ดีขึ้น และลดโอกาสการเกิดการลัดวงจรภายในเซลล์ซึ่งเป็นสาเหตุของความร้อนสูงเกินควบคุม (Thermal Runaway) ที่อาจนำไปสู่การลุกไหม้หรือระเบิดได้ ความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นนี้สร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้งาน ทั้งในระหว่างการขับขี่ การจอด และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างการชาร์จแบตเตอรี่

อายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ลดต้นทุนในระยะยาว

แบตเตอรี่ Solid-State แสดงให้เห็นถึงความทนทานต่อการเสื่อมสภาพที่เหนือกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนอย่างมาก โดยมีอายุการใช้งานหรือรอบการชาร์จ (Cycle Life) ที่ยาวนานกว่า โดยคาดการณ์ว่าสามารถชาร์จได้มากกว่า 3,000-10,000 รอบ ก่อนที่ประสิทธิภาพการเก็บประจุจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เปรียบเทียบกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนทั่วไปซึ่งมีอายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 1,000-3,000 รอบ

อายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นนี้หมายความว่าผู้ใช้ E-Bike ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่บ่อยเท่าเดิม ซึ่งแม้ว่าในระยะแรกแบตเตอรี่ Solid-State อาจมีราคาสูงกว่า แต่เมื่อพิจารณาถึงต้นทุนตลอดอายุการใช้งานแล้ว อาจกลายเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่าในระยะยาว และยังช่วยลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

การชาร์จที่รวดเร็ว: ปลดล็อกข้อจำกัดด้านเวลา

ข้อจำกัดด้านเวลาในการชาร์จที่ยาวนานหลายชั่วโมงของ E-Bike ในปัจจุบันกำลังจะถูกทำลายลงด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่ Solid-State ด้วยโครงสร้างที่เสถียรและทนทานต่อความร้อนได้ดีกว่า แบตเตอรี่ชนิดนี้จึงสามารถรองรับกระแสไฟในการชาร์จที่สูงกว่ามาก ผลลัพธ์คือความสามารถในการชาร์จเร็ว (Fast Charging) ที่น่าทึ่ง โดยมีข้อมูลว่าสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ถึง 80% ของความจุทั้งหมดภายในเวลาเพียง 10-15 นาทีเท่านั้น

ความสามารถนี้จะเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งาน E-Bike ไปอย่างสิ้นเชิง ผู้ใช้สามารถแวะชาร์จระหว่างวันได้อย่างรวดเร็ว ทำให้การเดินทางไกลหรือการใช้งานอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวันเป็นไปได้จริงโดยไม่มีสะดุด การชาร์จที่รวดเร็วนี้จะทำให้ E-Bike มีความสะดวกสบายและคล่องตัวเทียบเท่ากับการเติมน้ำมันยานพาหนะแบบดั้งเดิม

เปรียบเทียบเทคโนโลยี: แบตเตอรี่ Solid-State vs. ลิเธียมไอออน

ความท้าทายและข้อจำกัดในปัจจุบัน

แม้ว่าแบตเตอรี่ Solid-State จะมีศักยภาพที่น่าทึ่ง แต่การนำมาใช้งานอย่างแพร่หลายในตลาด E-Bike ยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายและข้อจำกัดที่สำคัญหลายประการ ซึ่งเป็นอุปสรรคที่นักวิจัยและผู้ผลิตทั่วโลกกำลังพยายามแก้ไข

ต้นทุนการผลิตที่ยังคงสูง

อุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดในขณะนี้คือต้นทุนการผลิตที่ยังคงสูงมาก เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่พัฒนามาอย่างยาวนานและมีการผลิตในระดับมหาศาล (Economy of Scale) วัสดุที่ใช้ในการผลิตอิเล็กโทรไลต์ชนิดแข็งบางชนิดยังมีราคาแพงและหาได้ยาก นอกจากนี้ กระบวนการผลิตยังมีความซับซ้อนและต้องใช้เครื่องจักรเฉพาะทาง ทำให้ต้นทุนต่อหน่วยของแบตเตอรี่ Solid-State ยังสูงเกินกว่าที่จะนำมาใช้ใน E-Bike สำหรับตลาดผู้บริโภคทั่วไปได้ในปัจจุบัน

อุปสรรคในการผลิตเชิงพาณิชย์

นอกเหนือจากเรื่องต้นทุนแล้ว การขยายกำลังการผลิตจากระดับห้องปฏิบัติการไปสู่ระดับอุตสาหกรรม (Mass Production) ยังคงเป็นความท้าทายทางเทคนิค การผลิตอิเล็กโทรไลต์แข็งให้มีคุณภาพสม่ำเสมอในปริมาณมาก การประกอบเซลล์แบตเตอรี่ให้แนบสนิทไร้ช่องว่างเพื่อการนำไอออนที่ดีที่สุด และการควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอนยังคงเป็นเรื่องที่ซับซ้อน บริษัทผู้ผลิตจำเป็นต้องลงทุนมหาศาลในการสร้างโรงงานและพัฒนากระบวนการผลิตใหม่ทั้งหมด ซึ่งต้องใช้ทั้งเวลาและทรัพยากร

การนำมาใช้งานจริงในตลาด E-Bike

ในปัจจุบัน การเข้าถึงและการใช้งานแบตเตอรี่ Solid-State ในจักรยานไฟฟ้ายังคงมีจำกัดอย่างยิ่ง ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ยังอยู่ในช่วงการวิจัยและพัฒนา หรือเป็นเพียงรถต้นแบบ (Prototype) ที่ใช้ในการทดสอบเท่านั้น คาดว่าในช่วงแรก เทคโนโลยีนี้จะถูกนำไปใช้กับยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ระดับพรีเมียมก่อน จากนั้นจึงจะค่อยๆ ขยายมาสู่ตลาด E-Bike ในกลุ่มราคาสูงในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า และอาจต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าที่เทคโนโลยีนี้จะมีราคาที่จับต้องได้และกลายเป็นมาตรฐานสำหรับ E-Bike ทั่วไป

ทิศทางและอนาคตของจักรยานไฟฟ้ากับแบตเตอรี่ Solid-State

แม้จะมีความท้าทายอยู่บ้าง แต่นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมต่างมองเห็นอนาคตที่สดใสของแบตเตอรี่ Solid-State และผลกระทบที่จะมีต่อวงการจักรยานไฟฟ้า แนวโน้มการพัฒนาในปัจจุบันชี้ให้เห็นถึงทิศทางที่น่าตื่นเต้นหลายประการ

การออกแบบ E-Bike แห่งอนาคต

เมื่อเทคโนโลยีแบตเตอรี่ Solid-State สามารถผลิตได้ในเชิงพาณิชย์ จะเป็นการเปิดประตูสู่การออกแบบ E-Bike รูปแบบใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำได้มาก่อน ด้วยแบตเตอรี่ที่มีขนาดเล็กลงและเบาลง นักออกแบบจะสามารถผสานแบตเตอรี่เข้ากับโครงสร้างของจักรยานได้อย่างแนบเนียนยิ่งขึ้น ทำให้ E-Bike มีรูปลักษณ์ที่ไม่แตกต่างจากจักรยานธรรมดา น้ำหนักที่ลดลงจะช่วยเพิ่มความคล่องตัวและสมรรถนะในการขับขี่ ในขณะที่ความจุพลังงานที่สูงขึ้นจะทำให้นักออกแบบสามารถสร้างสรรค์ E-Bike สำหรับการเดินทางไกล (Touring E-Bike) หรือจักรยานเสือภูเขาไฟฟ้า (E-MTB) ที่มีสมรรถนะสูงขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนักหรือขนาดของแบตเตอรี่อีกต่อไป

เทคโนโลยีกึ่งแข็ง (Semi-Solid State) ก้าวสำคัญในช่วงเปลี่ยนผ่าน

เพื่อลดช่องว่างทางเทคโนโลยีและต้นทุนระหว่างแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนและแบตเตอรี่ Solid-State เต็มรูปแบบ บริษัทหลายแห่งกำลังพัฒนา “แบตเตอรี่กึ่งแข็ง” (Semi-Solid State) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีลูกผสมที่ใช้อิเล็กโทรไลต์ที่มีลักษณะคล้ายเจลหรือมีการผสมของเหลวในปริมาณเล็กน้อย แนวทางนี้ช่วยให้ได้คุณสมบัติที่ดีขึ้นในด้านความปลอดภัยและความหนาแน่นของพลังงานเมื่อเทียบกับแบบเหลว แต่มีกระบวนการผลิตที่ซับซ้อนน้อยกว่าและต้นทุนต่ำกว่าแบบของแข็งเต็มรูปแบบ เทคโนโลยีกึ่งแข็งนี้อาจกลายเป็นเทคโนโลยีสำคัญในช่วงเปลี่ยนผ่าน ที่ช่วยให้ตลาดได้สัมผัสกับคุณประโยชน์ของเทคโนโลยีใหม่ในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นก่อน

การแข่งขันของยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรม

การแข่งขันเพื่อเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่ Solid-State กำลังเป็นไปอย่างดุเดือด บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Toyota, Samsung และ QuantumScape กำลังทุ่มงบประมาณมหาศาลในการวิจัยและพัฒนา เพื่อเป้าหมายในการผลิตแบตเตอรี่ Solid-State ที่มีประสิทธิภาพสูงและคุ้มค่าในเชิงพาณิชย์ให้ได้เป็นรายแรก ขณะเดียวกัน ในตลาดที่กำลังเติบโตอย่างอินเดีย ก็มีบริษัทที่เริ่มทดลองนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้กับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง โดยตั้งเป้าหมายไว้ในช่วงปี 2026-2027 การแข่งขันนี้จะช่วยเร่งให้การพัฒนาเทคโนโลยีเป็นไปอย่างรวดเร็ว และผลักดันให้ต้นทุนลดต่ำลงในอนาคต

บทสรุป: อนาคตที่น่าตื่นเต้นของ E-Bike อยู่ใกล้แค่เอื้อม

แบตเตอรี่ Solid-State มีศักยภาพอย่างมหาศาลที่จะเข้ามาพลิกโฉมและกำหนดนิยามใหม่ให้กับตลาดจักรยานไฟฟ้า ด้วยคุณสมบัติที่เหนือกว่าในทุกมิติ ทั้งความจุพลังงานที่สูงขึ้น นำไปสู่ระยะทางที่ไกลกว่าเดิม, ความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด, อายุการใช้งานที่ยาวนาน และความเร็วในการชาร์จที่เทียบเท่าการเติมพลังงานในเวลาไม่กี่นาที เทคโนโลยีนี้จะช่วยขจัดข้อจำกัดและข้อกังวลหลักๆ ของผู้ใช้ E-Bike ในปัจจุบันได้อย่างหมดจด

แม้ว่าปัจจุบันยังคงมีความท้าทายด้านต้นทุนและการผลิตในระดับอุตสาหกรรม แต่ด้วยการลงทุนวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากบริษัทชั้นนำทั่วโลก คาดว่าเราจะได้เห็นการนำเทคโนโลยีแบตเตอรี่ Solid-State มาใช้ใน E-Bike ระดับพรีเมียมในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า และจะค่อยๆ กลายเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับวงการในที่สุด การมาถึงของนวัตกรรมนี้คือสัญญาณที่ชัดเจนว่า อนาคตของการเดินทางด้วยจักรยานไฟฟ้าที่ทั้งทรงพลัง ปลอดภัย และไร้ขีดจำกัดนั้นอยู่ใกล้กว่าที่เคย

สำหรับผู้ที่สนใจในนวัตกรรมจักรยานไฟฟ้าและต้องการสัมผัสประสบการณ์การขับขี่ที่ดีที่สุดในปัจจุบัน GIANT Shopping Mall คือศูนย์รวมจักรยานไฟฟ้าทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น E-bike สำหรับการเดินทางในเมือง สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่คล่องตัว หรือจักรยานไฟฟ้าที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการโดยเฉพาะ

เยี่ยมชมและเลือกซื้อจักรยานไฟฟ้าที่ใช่สำหรับคุณได้แล้ววันนี้
ติดต่อเราผ่าน FACEBOOK PAGE หรือ LINE
ติดต่อ สอบถามเพิ่มเติม

เวลาทำการ: จันทร์ – เสาร์ (9.00 – 18.00 น.)
โทร: 061-962-2878
ที่ตั้งร้าน: 44 หมู่ 14 ตำบลบ้านเป็ด อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น 40000