EV 3.5: สรุปมาตรการรัฐที่คนซื้อ E-Bike ต้องรู้ปี 2568
- ประเด็นสำคัญของมาตรการ EV 3.5
- เจาะลึกมาตรการ EV 3.5 คืออะไร
- สิทธิประโยชน์สำหรับผู้ซื้อ E-Bike และสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าในปี 2568
- ไทม์ไลน์สำคัญ: EV 3.0 สู่ EV 3.5
- ผลกระทบต่อผู้ผลิตและภาพรวมตลาด
- ข้อควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อจักรยานไฟฟ้าปี 2568
- บทสรุปและอนาคตของตลาด E-Bike ไทย
- เลือกซื้อจักรยานไฟฟ้าที่ตอบโจทย์การใช้งาน
มาตรการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าเฟสใหม่ หรือที่รู้จักในชื่อ EV 3.5: สรุปมาตรการรัฐที่คนซื้อ E-Bike ต้องรู้ปี 2568 ถือเป็นนโยบายสำคัญที่ภาครัฐผลักดันเพื่อส่งเสริมการใช้และการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศอย่างต่อเนื่อง นโยบายนี้ไม่เพียงส่งผลต่อตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงจักรยานยนต์ไฟฟ้า (E-Bike) และสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นยานพาหนะที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การทำความเข้าใจในรายละเอียดของมาตรการนี้จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่วางแผนจะซื้อยานยนต์ไฟฟ้าสองล้อในปี 2568 เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุดและตัดสินใจได้อย่างคุ้มค่า
ประเด็นสำคัญของมาตรการ EV 3.5
- ขยายระยะเวลาการจำหน่ายและจดทะเบียน: ยานยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตในประเทศภายใต้มาตรการ EV 3.5 สามารถจำหน่ายได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2570 และขยายเวลาจดทะเบียนไปจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2571 เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ซื้อช่วงปลายปี
- ครอบคลุมจักรยานยนต์ไฟฟ้า (E-Bike): มาตรการนี้ให้การสนับสนุนทั้งรถยนต์ไฟฟ้าและจักรยานยนต์ไฟฟ้า ผู้ซื้อ E-Bike และสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่เข้าเกณฑ์จะได้รับสิทธิประโยชน์ เช่น เงินอุดหนุน และการลดหย่อนภาษีสรรพสามิต
- เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผู้ผลิต: ปรับปรุงเงื่อนไขการผลิตชดเชยและการส่งออกให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อป้องกันปัญหาสินค้าล้นตลาดและส่งเสริมให้ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออกในภูมิภาค
- ส่งเสริมการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ: มีนโยบายที่กระตุ้นให้ผู้ผลิตหันมาใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะส่วนประกอบสำคัญอย่างเซลล์แบตเตอรี่ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของไทยในระยะยาว
- ช่วงเปลี่ยนผ่านสำคัญในปี 2568: ปี 2568 ถือเป็นปีสุดท้ายของมาตรการ EV 3.0 และเป็นปีเริ่มต้นของ EV 3.5 ผู้ซื้อจึงควรตรวจสอบข้อมูลกับผู้จำหน่ายอย่างละเอียดว่ายานยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่สนใจนั้นอยู่ภายใต้มาตรการใด เพื่อวางแผนการซื้อและรับสิทธิประโยชน์ได้อย่างถูกต้อง
เจาะลึกมาตรการ EV 3.5 คืออะไร
มาตรการ EV 3.5 เป็นนโยบายต่อเนื่องจากมาตรการ EV 3.0 ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2568 โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสนับสนุนและเร่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน นโยบายนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานในตลาด ป้องกันความเสี่ยงจากสงครามราคา และที่สำคัญคือการวางรากฐานให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV Hub) ที่สำคัญของภูมิภาคอาเซียน
โดยแก่นแท้แล้ว มาตรการนี้เป็นการมอบสิทธิประโยชน์ทางภาษีและเงินอุดหนุนให้กับทั้งผู้ซื้อและผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อจูงใจให้เกิดการซื้อขายและการลงทุนในอุตสาหกรรมนี้มากขึ้น โดยมีการปรับปรุงเงื่อนไขต่างๆ จากมาตรการเดิมให้มีความยืดหยุ่นและสอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและสภาวะตลาดในปัจจุบันมากขึ้น
มาตรการ EV 3.5 ไม่เพียงกระตุ้นตลาดในระยะสั้น แต่ยังเป็นการวางรากฐานอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของไทยในระยะยาว โดยมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2593
เป้าหมายหลักของนโยบายส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า
เป้าหมายของมาตรการ EV 3.5 สามารถแบ่งออกเป็นมิติหลักๆ ได้ดังนี้:
- ด้านผู้บริโภค: ทำให้ยานยนต์ไฟฟ้ามีราคาที่เข้าถึงง่ายขึ้น ผ่านการให้เงินอุดหนุนและการลดอัตราภาษีสรรพสามิต เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนหันมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานในระยะยาว
- ด้านผู้ผลิตและอุตสาหกรรม: ส่งเสริมให้เกิดการลงทุนตั้งฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนสำคัญในประเทศ สร้างงาน และถ่ายทอดเทคโนโลยีขั้นสูง พร้อมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยในเวทีโลก
- ด้านสิ่งแวดล้อม: ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่น PM2.5 ในภาคการขนส่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งกำเนิดมลพิษที่สำคัญ เพื่อนำไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ
- ด้านเศรษฐกิจมหภาค: ลดการพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง สร้างเสถียรภาพด้านพลังงาน และผลักดันให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้ากลายเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ (New S-Curve) ของประเทศ
ขอบเขตของยานยนต์ไฟฟ้าที่ครอบคลุม
มาตรการ EV 3.5 มีขอบเขตที่กว้างและครอบคลุมยานยนต์ไฟฟ้าประเภทต่างๆ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเท่านั้น แต่ยังรวมถึงยานยนต์ไฟฟ้าประเภทอื่นที่มีบทบาทสำคัญในการเดินทางในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง:
- รถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle: BEV): รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100%
- จักรยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Motorcycles หรือ E-Bike): ครอบคลุมทั้งจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่ต้องจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของมาตรการนี้
- สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า (Electric Scooters): แม้บางรุ่นอาจไม่ต้องจดทะเบียน แต่ผู้ซื้อควรตรวจสอบกับผู้จำหน่ายว่ารุ่นที่สนใจนั้นเข้าเกณฑ์และสามารถรับสิทธิประโยชน์ตามมาตรการได้หรือไม่
การที่มาตรการนี้ให้ความสำคัญกับจักรยานยนต์ไฟฟ้าสะท้อนให้เห็นถึงการยอมรับว่ายานพาหนะสองล้อเป็นส่วนสำคัญของระบบคมนาคมในประเทศไทย และการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบไฟฟ้าในกลุ่มนี้จะส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของคนเมืองได้อย่างมีนัยสำคัญ
สิทธิประโยชน์สำหรับผู้ซื้อ E-Bike และสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าในปี 2568
สำหรับผู้ที่กำลังวางแผนจะซื้อจักรยานไฟฟ้าหรือสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าในปี 2568 มาตรการ EV 3.5 ถือเป็นข่าวดีอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้สามารถเป็นเจ้าของยานพาหนะไฟฟ้าได้ในราคาที่คุ้มค่ากว่าเดิม ผ่านสิทธิประโยชน์หลายด้านที่รัฐบาลมอบให้โดยตรง
เงินอุดหนุนโดยตรงจากภาครัฐ
หนึ่งในสิทธิประโยชน์ที่น่าสนใจที่สุดคือ “เงินอุดหนุน” ซึ่งรัฐบาลจะมอบให้กับผู้ซื้อยานยนต์ไฟฟ้าที่เข้าร่วมโครงการ โดยรูปแบบจะเป็นการลดราคา ณ จุดขาย กล่าวคือ ผู้จำหน่ายจะขาย E-Bike ในราคาที่หักส่วนลดจากเงินอุดหนุนไปแล้ว และจะไปดำเนินการขอรับเงินส่วนดังกล่าวจากภาครัฐในภายหลัง ทำให้ผู้ซื้อได้รับประโยชน์ทันทีโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการที่ยุ่งยาก
แม้ว่าตัวเลขเงินอุดหนุนสำหรับ E-Bike และสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าภายใต้มาตรการ EV 3.5 จะต้องรอการประกาศอย่างเป็นทางการในราชกิจจานุเบกษาอีกครั้ง แต่จากแนวทางของมาตรการก่อนหน้า คาดว่าจะเป็นจำนวนเงินที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายเริ่มต้นได้อย่างมีนัยสำคัญ และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้คนตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้าได้ง่ายขึ้น
การปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิต
นอกเหนือจากเงินอุดหนุนแล้ว มาตรการ EV 3.5 ยังมีการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าอีกด้วย โดยจะมีการลดอัตราภาษีสำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่เข้าร่วมโครงการให้ต่ำกว่าอัตราปกติ ซึ่งการลดภาษีในส่วนนี้จะส่งผลโดยตรงต่อต้นทุนของผู้ผลิตและผู้นำเข้า ทำให้สามารถตั้งราคาจำหน่ายสุดท้าย (Retail Price) ได้ต่ำลงอีกทอดหนึ่ง
การลดหย่อนภาษี EV ในส่วนนี้จึงเป็นอีกหนึ่งกลไกที่ช่วยทำให้ราคาของ E-Bike ในตลาดสามารถแข่งขันกับรถจักรยานยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในได้ดียิ่งขึ้น และเป็นแรงจูงใจสำคัญให้ผู้บริโภคพิจารณาเลือกใช้เทคโนโลยีที่สะอาดกว่า
แนวโน้มราคาสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าและจักรยานไฟฟ้า
จากการรวมกันของเงินอุดหนุนและการลดภาษีสรรพสามิต คาดการณ์ได้ว่าในปี 2568 ราคาของ E-Bike และสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าหลายรุ่นในตลาดจะมีการปรับตัวลดลง หรืออาจมีการเปิดตัวรุ่นใหม่ๆ ในระดับราคาที่น่าดึงดูดยิ่งขึ้น สถานการณ์นี้จะกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันในตลาด ซึ่งท้ายที่สุดแล้วผู้บริโภคจะเป็นผู้ได้รับประโยชน์สูงสุด
ข้อมูลจากช่วง 9 เดือนแรกของปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่ายอดจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้า BEV (ซึ่งรวม E-Bike ด้วย) เติบโตขึ้นถึง 59% ซึ่งเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าตลาดกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว และมาตรการ EV 3.5 จะเข้ามาเป็นตัวเร่งให้แนวโน้มนี้เติบโตต่อไปอีก
ไทม์ไลน์สำคัญ: EV 3.0 สู่ EV 3.5
เพื่อให้เข้าใจถึงสิทธิประโยชน์และเงื่อนไขต่างๆ อย่างชัดเจน การทราบถึงกรอบเวลาของมาตรการ EV 3.0 ที่กำลังจะสิ้นสุดลง และ EV 3.5 ที่กำลังจะเริ่มขึ้นจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่วางแผนจะซื้อในช่วงรอยต่อของปี 2568
| หัวข้อ | มาตรการ EV 3.0 | มาตรการ EV 3.5 |
|---|---|---|
| ระยะเวลาโครงการ | พ.ศ. 2565 – 2568 | พ.ศ. 2567 – 2570 |
| วันสิ้นสุดการจำหน่าย | 31 ธันวาคม 2568 | 31 ธันวาคม 2570 |
| วันสิ้นสุดการจดทะเบียน | 31 มกราคม 2569 | 31 มกราคม 2571 |
| จุดเด่นสำหรับผู้ซื้อ | เป็นมาตรการเริ่มต้นที่สร้างกระแสความนิยม EV ในวงกว้าง | ให้สิทธิประโยชน์ต่อเนื่อง พร้อมปรับเงื่อนไขให้ยืดหยุ่นและสนับสนุนอุตสาหกรรมในประเทศมากขึ้น |
| สิ่งที่ต้องตรวจสอบในปี 2568 | ผู้ที่ซื้อรถในช่วงปลายปีต้องรีบดำเนินการจดทะเบียนให้ทันภายในเดือนมกราคม 2569 | ตรวจสอบกับผู้จำหน่ายว่ารุ่นที่สนใจเข้าร่วมมาตรการ EV 3.5 หรือไม่ เพื่อรับสิทธิประโยชน์เต็มรูปแบบ |
จากตารางจะเห็นได้ว่า ปี 2568 เป็นช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านที่สำคัญ ผู้ซื้อควรสอบถามผู้จำหน่ายให้แน่ชัดว่า E-Bike รุ่นที่สนใจนั้นอยู่ภายใต้สิทธิ์ของมาตรการใด เพื่อให้สามารถวางแผนการเงินและการดำเนินการจดทะเบียนได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที โดยเฉพาะการขยายเวลาจดทะเบียนในมาตรการ EV 3.5 ซึ่งจะช่วยลดความกังวลให้กับผู้ที่ตัดสินใจซื้อในช่วงสิ้นปีได้อย่างมาก
ผลกระทบต่อผู้ผลิตและภาพรวมตลาด
มาตรการ EV 3.5 ไม่ได้มุ่งเน้นแค่การกระตุ้นฝั่งผู้ซื้อเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการสร้างระบบนิเวศของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่แข็งแกร่งในประเทศ โดยมีการปรับปรุงเงื่อนไขต่างๆ เพื่อสนับสนุนผู้ผลิตและดึงดูดการลงทุน
เงื่อนไขการผลิตชดเชยและการส่งออกที่ยืดหยุ่น
หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือการเพิ่มความยืดหยุ่นในเงื่อนไขการผลิตชดเชยสำหรับผู้ที่นำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาจำหน่ายในช่วงแรก โดยอนุญาตให้นับยอดการผลิตเพื่อส่งออกเป็นการผลิตชดเชยได้ในอัตรา 1.5 เท่า และขยายเวลาการส่งออกไปจนถึงช่วงกลางปีถัดไป การปรับเปลี่ยนนี้ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถวางแผนการผลิตและบริหารจัดการสต็อกสินค้าได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดความเสี่ยงจากปัญหาสินค้าล้นตลาด และส่งเสริมให้ฐานการผลิตในไทยสามารถรองรับตลาดส่งออกได้อีกด้วย
นโยบายด้านชิ้นส่วนและแบตเตอรี่
มาตรการนี้ยังส่งเสริมให้เกิดการใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศ (Local Content) มากขึ้น โดยเฉพาะเซลล์แบตเตอรี่ซึ่งเป็นหัวใจของยานยนต์ไฟฟ้า มีการขยายเวลาการนับมูลค่าเซลล์แบตเตอรี่ที่นำเข้าจากต่างประเทศออกไปถึงกลางปี 2569 เพื่อให้ผู้ผลิตมีเวลาในการปรับตัวและจัดหาชิ้นส่วนจากซัพพลายเออร์ในประเทศได้ทัน ซึ่งในระยะยาวจะช่วยสร้างความมั่นคงให้กับห่วงโซ่อุปทานและลดการพึ่งพาการนำเข้า
เป้าหมายสู่การเป็นฐานการผลิต EV ในภูมิภาค
ภาพรวมของมาตรการ EV 3.5 ทั้งหมดถูกออกแบบมาเพื่อบรรลุเป้าหมายใหญ่ นั่นคือการผลักดันให้ประเทศไทยกลายเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญของภูมิภาคอาเซียน การสร้างแรงจูงใจทั้งฝั่งอุปสงค์ (ผู้ซื้อ) และอุปทาน (ผู้ผลิต) ควบคู่ไปกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น สถานีชาร์จ จะช่วยสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้ได้อย่างยั่งยืน
ข้อควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อจักรยานไฟฟ้าปี 2568
แม้ว่ามาตรการ EV 3.5 จะมอบสิทธิประโยชน์มากมาย แต่ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ E-Bike หรือสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าในปี 2568 มีประเด็นสำคัญบางประการที่ผู้ซื้อควรพิจารณาและตรวจสอบให้รอบคอบ
วิธีตรวจสอบว่ารุ่นที่สนใจเข้าร่วมมาตรการหรือไม่
สิ่งแรกและสำคัญที่สุดคือการตรวจสอบว่า E-Bike รุ่นที่สนใจนั้นได้เข้าร่วมโครงการและมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่มาตรการกำหนดหรือไม่ วิธีที่ดีที่สุดคือการสอบถามโดยตรงจากผู้จำหน่ายหรือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เนื่องจากผู้จำหน่ายจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและอัปเดตที่สุดจากผู้ผลิตและหน่วยงานภาครัฐ ควรสอบถามให้ชัดเจนว่ารถคันดังกล่าวจะได้รับสิทธิ์เงินอุดหนุนและสิทธิ์ลดหย่อนภาษีภายใต้มาตรการ EV 3.5 หรือไม่ เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจด้านราคา
การเตรียมเอกสารและการจดทะเบียน
สำหรับจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่ต้องมีการจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก ผู้ซื้อควรเตรียมเอกสารส่วนตัวให้พร้อม เช่น บัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน และดำเนินการจดทะเบียนให้เรียบร้อยภายในกรอบเวลาที่กำหนด แม้ว่ามาตรการ EV 3.5 จะขยายเวลาจดทะเบียนไปจนถึง 31 มกราคม 2571 แต่การดำเนินการตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยลดความวุ่นวายและทำให้สามารถใช้งานรถได้อย่างสบายใจ ควรสอบถามขั้นตอนและเอกสารที่ต้องใช้จากผู้จำหน่าย เพื่อให้กระบวนการทั้งหมดเป็นไปอย่างราบรื่น
บทสรุปและอนาคตของตลาด E-Bike ไทย
EV 3.5: สรุปมาตรการรัฐที่คนซื้อ E-Bike ต้องรู้ปี 2568 นับเป็นก้าวสำคัญของนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าของไทย ที่ไม่เพียงแต่สานต่อความสำเร็จจากมาตรการเดิม แต่ยังมีการปรับปรุงให้ตอบโจทย์ทั้งผู้บริโภคและภาคอุตสาหกรรมได้ดียิ่งขึ้น สำหรับผู้ที่กำลังมองหาจักรยานไฟฟ้าหรือสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ปี 2568 ถือเป็นโอกาสทองที่จะได้เป็นเจ้าของยานพาหนะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในราคาที่เข้าถึงง่ายขึ้นจากเงินอุดหนุนและการลดหย่อนภาษี
มาตรการนี้คาดว่าจะช่วยเร่งให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมคาร์บอนต่ำได้เร็วขึ้น กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย และยกระดับประเทศไทยให้เป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคได้อย่างแท้จริง ดังนั้น ผู้บริโภคควรติดตามข่าวสารและประกาศอย่างเป็นทางการจากภาครัฐอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้พลาดสิทธิประโยชน์สำคัญในการซื้อจักรยานไฟฟ้าครั้งต่อไป
เลือกซื้อจักรยานไฟฟ้าที่ตอบโจทย์การใช้งาน
การเลือกซื้อจักรยานไฟฟ้าที่เหมาะสมกับการใช้งานเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้รับความคุ้มค่าสูงสุด ที่ GIANT Shopping Mall เราคือศูนย์รวมจำหน่ายจักรยานไฟฟ้าทุกประเภท สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า และ E-bike ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในเมือง การเดินทางระยะใกล้ หรือเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ พร้อมทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับมาตรการรัฐและช่วยเลือกรุ่นที่เหมาะสมที่สุด
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรโมชั่นและรุ่นที่เข้าร่วมมาตรการ EV 3.5 ได้ที่:
FACEBOOK PAGE | LINE | ติดต่อ สอบถามเพิ่มเติม
ร้านเปิดทำการ: ทุกวัน จันทร์ – เสาร์ (เวลา 9.00 – 18.00 น.)
โทรศัพท์: 061-962-2878
ที่ตั้งร้าน: 44 หมู่ 14 ตำบลบ้านเป็ด อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น 40000
